5 แนวโน้มของการทำ Ecommerce ในปี 2019

 

Electronic Commerce (Ecommerce) หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น หรือที่เรารู้จักกันในคำว่า การทำธุรกิจหรือธุรกรรมออนไลน์นั่นเองค่ะ

ซึ่งข้อดีของ Ecommerce มีหลายอย่าง เช่น ลดต้นทุนการจ้างงาน ลดต้นทุนด้านสถานที่ ลดปัญหาการทำงานร่วมกันในเรื่องของระยะทางและเวลา สามารถทำการค้าได้แบบอัตโนมัติ หรือสามารถเปิดขายสินค้าได้ทั่วโลก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้าถึงสินค้าของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด และที่สำคัญ Ecommerce จะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าให้กับเราโดยที่เราไม่ต้องลงแรงอะไรมากมายอีกด้วย

 

ในเว็บไซต์ของ Statista ได้ทำนายเอาไว้ว่า รายได้จาก Ecommerce ค้าปลีกทั่วโลกจะอยู่ที่ 4.88 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2021 และใน 2-3 ปีมานี้เราก็จะเห็นว่า ธุรกิจต่างๆ เริ่มหันมาใช้ Ecommerce ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น แต่ที่สำคัญก็คือ เราต้องมีการอัพเดทตัวเองตลอดเวลาว่า แนวโน้มของการทำ Ecommerce นั้นปรับไปในทิศทางใดบ้าง เพื่อที่เราจะต้องมาปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับธุรกิจของเราเองค่ะ

 

แนวโน้มของการทำ Ecommerce ในปี 2019

Trend #1: Dropshipping

 

Dropshipping หรือ Drop Shipping เป็นรูปแบบธุรกิจที่ทำกำไรได้สำหรับธุรกิจ Ecommerce ที่ไม่มีเงินทุนมากมายในการเริ่มต้น มันคือการที่เราทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์และลูกค้า เรามีหน้าที่ติดต่อค้าขายกับลูกค้าของเราเท่านั้น แต่สินค้าต่างๆ จะถูกส่งให้ลูกค้าโดยผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ เราไม่จำเป็นต้องเห็นสินค้าชิ้นนั้นเลยด้วยซ้ำ

รูปแบบธุรกิจนี้เริ่มต้นง่ายมาก มีความเสี่ยงน้อยกว่าและมีข้อดีเยอะมาก เช่น

  • ไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้า
  • ไม่จำเป็นต้องออกไปส่งของ
  • ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน

 

 

 

 

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dropshipping ได้ที่นี่

ขายของออนไลน์แบบ Drop Shipping คืออะไร มีข้อดีข้อเสียยังไง

9 สิ่งที่ควรเตรียมตัวหากอยากขายของออนไลน์ทั่วโลก

เริ่มทำดรอปชิปใช้เงินเท่าไหร่

 

ในรายงาน Ecommerce ในปี 2018 พบว่าจากร้านค้าออนไลน์ 450 แห่ง มี 16.4% ใช้วิธีการขายแบบ Dropshipping, ซึ่งธุรกิจที่ใช้โมเดลนี้มีการเติบโตของรายได้เฉลี่ย 32.7%

และเนื่องจากว่ามันมีข้อดีเยอะแบบนี้ เราจึงมีแนวโน้มที่จะเห็นธุรกิจ Dropshipping เพิ่มขึ้นอีกในอนาคตค่ะ

 

 

Trend #2: Multi-Channel Selling

 

ในปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคไม่ได้ใช้ช่องทางเดียวในการซื้อของออนไลน์อีกแล้ว ใน The 2018 Omnichannel Buying Report บอกว่า 78% ของผู้ตอบแบบสำรวจซื้อของจาก Amazon, 45% ซื้อสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ในร้านค้าออนไลน์ของแบรนด์นั้น, 65% ซื้อในช้อปต่างๆ, 34% ซื้อจาก eBay, และ 34% ซื้อจาก Facebook

 

ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า หากเราเพิ่มช่องทางการขาย การนำเสนอสินค้าและบริการให้ได้มากกว่าหนึ่งช่องทาง เช่น เว็บไซต์ E-Commerce, Social Media ต่างๆ, อีเว้นท์ หรือ Print Ad เป็นต้น เราก็จะสามารถทำกำไรได้มากขึ้นนั่นเอง

 

ใครที่กำลังทำธุรกิจออนไลน์อยู่ ลองใช้ช่องทางการขายที่เป็นที่นิยมเช่น eBay, Amazon, และ Google Shopping และอย่าลืมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น Facebook, Instagram และ Pinterest ซึ่งตอนนี้ก็มีฟังก์ชั่นที่รองรับการค้าขายด้วยเช่นกันค่ะ

 

Image result for Multi-Channel Selling

 

 

 

Trend #3: Smarter Payment Processing

 

ในกระบวนการซื้อสินค้าแต่ละครั้ง ลูกค้าได้ผ่านขั้นตอนการรับรู้แบรนด์และสินค้า การพิจารณาต่างๆ จนกระทั้งกดสั่งซื้อ กระบวนการชำระเงินเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการซื้อของของลูกค้าและเป็นขั้นตอนสำคัญที่สามารถสร้างหรือทำลายยอดขายของเรา ซึ่งถ้าขั้นตอนนี้ยุ่งยาก โอกาสที่ลูกค้าจะถอดใจ ปิดเว็บเราไปเลยก็มีมากขึ้น

จากรายงานของสถาบัน Baymart บอกว่า ลูกค้าที่เพิ่มสินค้าลงในตะกร้า เกือบ 70% ทำการปิดเว็บไซต์ไปเลย ไม่ทำการชำระเงินให้เสร็จ และ 28% ของลูกค้าเหล่านี้ไม่ซื้อของเพราะกระบวนการชำระเงินยุ่งยากซับซ้อนเกินไป

และนี่คืออีกประเด็นหนึ่งที่เราควรให้ความสนใจในปี 2019 นี้ หากอยากให้ร้านของเราปิดการขายได้มากขึ้น เราควรหันมาใส่ใจในเรื่องของกระบวนการชำระเงินนี้ด้วย

ข้อมูลอีกอย่างหนึ่งคือ 13% ของนักช้อปบอกว่า การที่พวกเขาไม่ทำการชำระเงินต่อให้เสร็จ เพราะว่าไม่มีตัวเลือกที่รองรับการจ่ายเงินสกุลเงินท้องถิ่น นั่นหมายความว่า ถ้าเราอยากจะขายของให้ได้ทั่วโลก เราต้องหาวิธีการชำระเงินที่ดีที่ครอบคลุมผู้ซื้อทุกประเทศนั่นเอง

คำแนะนำที่ดีที่สุดตอนนี้คือให้หาแพลตฟอร์มผู้ให้บริการด้านการเงินที่น่าเชื่อถือและครอบคลุมทุกประเทศ เช่น PayPal, Payoneer, Stripe หรือ Apple Pay ค่ะ แพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติ มั่นใจได้ว่าข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าจะไม่รั่วไหล แต่เราต้องศึกษาให้ดีก่อนนะคะว่าแต่ละแพลตฟอร์มนั้นสามารถใช้ในไทยได้หรือไม่

 

Related image

 

 

Trend #4: Omni-Channel Personalization

 

จากที่กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ร้านค้ามีแนวโน้มที่จะขายของหลายๆ ช่องทาง (Multi-Channel) มากขึ้น แต่นั่นยังไม่พอค่ะ เรายังจำเป็นต้องผสานช่องทางทั้งหมดของธุรกิจเข้าด้วยกัน (Omni-Channel) ซึ่งเป็นการวิวัฒนาการของการทำการค้าปลีกผ่านหลายช่องทาง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภคผ่านทุกช่องทางการขายที่เป็นไปได้

เช่น ลูกค้า A ใช้มือถือหาข้อมูลเปรียบเทียบราคานาฬิกาจากหน้าเว็บไซต์ www.central.co.th และให้ข้อมูลของตนเองไว้ที่เว็บไซต์ และสุดท้ายตัดสินใจไปซื้อที่หน้าร้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ร้านค้าจะรู้ได้ว่า ลูกค้า A เคยเข้าไปที่เว็บไซต์มาก่อน เป็นต้น

 

Related image

 

Omni-Channel Personalization จะมุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าประทับใจ โดยพื้นฐานแล้วจะต้องทำให้พนักงานในองค์กรมีทัศนคติที่ดีต่อองค์กร พร้อมมอบบริการที่ดีเลิศให้กับลูกค้าไปในทิศทางเดียวกัน

ทั้งหมดนี้จะสร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้า ไม่ทำให้ลูกค้าลำบากต่อการซื้อสินค้าและบริการ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นค่ะ

 

 

Trend #5: Custom Packaging

 

ปัจจุบันนี้ลูกค้าส่วนใหญ่มักมองว่า บรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่สินค้าเป็นส่วนหนึ่งของสินค้า จากการศึกษาการจัดจำหน่ายของ Dotcom พบว่า 68% ของผู้ซื้อรู้สึกว่าแบรนด์หรูมากขึ้นหากกล่องใส่สินค้าสวย

 

ecommerce-trends-9

 

นอกจากนี้ 61% ของผู้ซื้อยังบอกว่า การเห็นกล่องใส่สินค้าหน้าตาแปลก ไม่เหมือนใคร ทำให้พวกเขาตื่นเต้นกับสินค้ามากขึ้น

ดังนั้น ร้านค้าใดที่อยากจะสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นและแตกต่างในปี 2019 ควรคำนึงถึงกล่องใส่สินค้าที่ดีไซน์เก๋ ไม่ซ้ำใคร เพื่อยกระดับแบรนด์และทำให้แบรนด์หรือร้านค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้นค่ะ

 

Image result for creative packaging

 

 

สรุป

การทำธุรกิจ Ecommerce ในปัจจุบันนี้กำลังเติบโตไปอย่างรวดเร็ว และการแข่งขันก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน เราผู้เป็นผู้อยู่ในธุรกิจนี้ควรศึกษาแนวโน้มการตลาดและปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำการตลาดแบบ Omni-Channel Personalization เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และใช้แพลตฟอร์มการชำระเงินที่น่าเชื่อถือ แค่นี้เราก็สามารถจัดการธุรกิจ Ecommerce ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นค่ะ

 


 

 

สอบถามคอร์สเรียน >> Click

 


Reference: crazyegg.com

 

 

Share what you've read:
Posted in Dropshipping, Start Your Business and tagged , , , .

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *