คุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจจะทำธุรกิจออนไลน์แบบดรอปชิปใช่มั้ยคะ
คุณรู้จัก Aliexpress และกำลังสนใจที่จะนำสินค้าจาก Aliexpress มาขายใช่มั้ยคะ
ถ้าใช่ บทความนี้เหมาะกับคุณค่ะ
ก่อนหน้านี้ทับทิมได้เขียนบทความเกี่ยวกับ สิ่งที่ควรเตรียมก่อนเปิดร้านค้าออนไลน์ ไป ซึ่งมันเป็นพื้นฐานสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ที่ต้องรู้และต้องเตรียมก่อนเริ่มเปิดร้านค้าออนไลน์ในแพลตฟอร์มทั่วๆ ไป
สำหรับบทความนี้ทับทิมจะมาลงลึกในส่วนของการขายของแบบ Aliexpress Dropship ว่าหากคิดจะทำธุรกิจนี้ คุณควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
1. Check shipping times
เช็กก่อนว่าประเทศที่เราจะขายนั้น ใช้ระยะเวลาในการขนส่งกี่วัน ถ้าจะให้ดีก็เช็กหลายๆ ประเทศเพื่อเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกขายที่ประเทศไหน เนื่องจากว่า การขนส่งของจากจีนไปต่างประเทศใช้เวลาไม่เท่ากัน บางประเทศเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น สหรัฐฯ มีบริการ ePacket โดย USPS ซึ่งใช้เวลาในการส่งเพียงแค่ 12-20 วัน ค่าบริการก็ถูกมากหรือบางร้านอาจส่งให้ฟรีเลยก็มี หรือส่งไปประเทศอังกฤษใช้เวลาประมาณ 20-40 วัน และควรดูช่องทางในการส่งของด้วยว่าเราสามารถติดตามเลขพัสดุได้ เพื่อความเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า และเพิ่มความน่าเชื่อถือของร้าน ขอแนะนำว่า การขนส่งของไม่ควรนานเกิน 3-4 สัปดาห์
2. Create your own store. Don’t dropship on eBay or Amazon
สร้างร้านค้าของตัวเอง ไม่ควรทำดรอปชิพผ่านทางอีเบย์หรืออเมซอน หลายคนคิดว่าการขายของผ่านอีเบย์หรืออเมซอนทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเสียเวลาทำเว็บไซต์หรือหน้าร้านออนไลน์ แต่รู้หรือไม่ว่าในอีเบย์หรืออเมซอนนั้น การแข่งขันสูงมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นเจ้าของที่ขายใน Aliexpress นั่นแหละ ส่งของไปไว้ที่ Warehouse ของอีเบย์หรืออเมซอน ซึ่งทำให้สินค้ายังคงราคาถูกมากๆ และยังสามารถส่งของไปให้ลูกค้าได้รวดเร็วกว่าอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะมีลูกค้าซื้อของเรา และของถึงมือลูกค้าภายในเวลาที่เรากำหนด มันก็ยังช้าอยู่ดีหากเปรียบเทียบกับเจ้าอื่นในแพลตฟอร์มเดียวกัน และลูกค้าก็จะให้รีวิวลบกับร้านเรา ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดีเลย ดังนั้น แนะนำว่าควรจะมีร้านค้าออนไลน์เป็นของตัวเอง ตกแต่งหน้าร้านให้สวยงามและน่าเชื่อถือ เมื่อลูกค้าเข้ามาเลือกดูสินค้า คิดพิจารณาแค่สินค้าของร้านเรา แล้วก็ตัดสินใจเลย ไม่มีการเปรียบเทียบมากมาย เราจะสามารถปิดการขายได้ง่ายกว่า
3. Set up a business profile
หากสงสัยว่า ‘ก่อนทำดรอปชิปนั้นเราต้องสร้างบริษัทขึ้นมาก่อนหรือเปล่า’
คำตอบคือ ไม่จำเป็น คุณสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์แบบดรอปชิปได้ทันทีเลยเมื่อคุณพร้อม ซึ่งคุณสามารถแนะนำตัวในหน้าเพจของร้านว่าคุณคือบริษัท หรือผู้ประกอบการ หรือเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับความเป็นมาของร้านได้เพื่อความน่าเชื่อถือ
คำถามต่อไปคือ ‘ถ้าเราจะขายของในประเทศอื่น ควรตั้งค่าที่อยู่ร้านที่ไหน’
คำตอบคือ ที่ที่เราอยู่นั่นแหละ มันไม่ได้ส่งผลต่อการขายมากเท่าไหร่นัก หรือหากคุณอยากได้ความน่าเชื่อถือมากขึ้น และคุณมีที่อยู่ที่ต่างประเทศ หรือมีญาติอยู่ในประเทศที่คุณจะขาย ก็สามารถใส่ที่อยู่ต่างประเทศได้เช่นกัน แต่อย่าลืมว่า หากลูกค้าอยากคืนสินค้า เค้าก็จะส่งไปตามที่อยู่ที่คุณเขียนไว้นะคะ
4. Making shipping time very clear
ควรใส่ระยะเวลาในการส่งสินค้าให้ลูกค้าเห็นได้ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้ารับรู้ก่อนการสั่งซื้อสินค้า ถึงแม้ว่าเราจะมีรายละเอียดเรื่องการส่งของแยกอยู่อีกหน้านึง แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าไม่ค่อยดู แล้วก็จะมีปัญหาตามมาทีหลัง เช่น การขอเงินคืน ปฏิเสธไม่รับสินค้า หรือการให้รีวิวไม่ดี เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวที่จะบอกว่าร้านเราส่งของช้า ทางที่ดีควรใส่ในหน้าสินค้าทุกๆ ชิ้นไปเลย
5. Have a great refund policy
หน้า Refund policy หรือ นโยบายการคืนเงิน นั้น สำคัญมาก ควรเขียนให้ชัดเจนไปเลยว่า กรณีไหนคืนเงินได้หรือไม่ได้ เช่น กรณีลูกค้าเปลี่ยนใจ ไม่อยากได้สินค้าแล้ว แบบนี้ไม่สามารถคืนเงินได้ หรือ กรณีที่ต้องการคืนเงินจริงๆ ให้ส่งของมายังที่อยู่เรา และเราต้องได้รับและตรวจเช็กของก่อน ถึงจะคืนเงินให้ เป็นต้น
6. Keep customers happy with follow-up email
หลังจากขายสินค้าได้แล้ว ควรส่งอีเมลหาลูกค้าด้วย เป็นการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ากลับมายังร้านเราและซื้อสินค้ากับเราอีก อีกทั้งยังอาจได้รับรีวิวดีๆ จากลูกค้าอีกด้วย ซึ่งคุณอาจตั้งค่าอีเมลไว้ล่วงหน้าให้ส่งไปหาลูกค้า 2-3 อีเมล เช่น อันแรกเป็นการขอบคุณที่ซื้อสินค้าร้านเรา อันที่สอง ส่งไปบอกว่าสินค้าได้ถูกจัดส่งไปแล้ว พร้อมกับแนบเลขพัสดุ และลิงค์สำหรับการติดตามพัสดุ แสดงให้เห็นว่าเราใส่ใจลูกค้า หากมีปัญหาอะไรให้ติดต่อเราได้ตลอด เป็นต้น
7. Manage your cash flow
ควรมีบัตรเครดิตหรือเงินสำรองไว้สั่งสินค้าเมื่อลูกค้าซื้อของเรา เนื่องจากว่าการขายของในต่างประเทศนั้น เราใช้ PayPal ในการรับเงิน ซึ่งการถอนเงินออกจาก PayPal นั้นจะใช้เวลา 5-7 วัน ดังนั้น บริหารการเงินตรงนี้ให้ดี เราควรมีเงินสำรองเพื่อใช้ในการสั่งของให้ลูกค้าด้วย
8. Be prepare to spend money to make money
ต้องพร้อมที่จะใช้เงินเพื่อสร้างเงิน การทำการตลาดนั้นมีหลายช่องทาง มีทั้งฟรีและเสียเงิน ซึ่งต้องยอมรับว่า ช่องทางที่ฟรีนั้น มีค่ะ แต่ขายยากมาก ช้ามาก ดังนั้น เราต้องพร้อมที่จะลงทุนกับการโฆษณา ซึ่งก็มีหลายรูปแบบให้เราเลือก หลายๆ คนที่เริ่มทำดรอปชิปส่วนใหญ่ทำการตลาดแค่แบบเดียวแล้วพบว่ามันขายยาก ขายไม่ได้ ขาดทุน แล้วก็ยอมแพ้ไป แนะนำว่าควรทดลองหลายๆ แบบ เพื่อหาช่องทางที่เหมาะกับร้านเราและสินค้าของเรามากที่สุด ลงทุนสร้างร้านมากเท่าไหร่ ควรจะลงทุนกับการตลาดมากกว่าสิบเท่า เพื่อที่จะได้เงินคืนร้อยเท่า
จะลงทุนทำธุรกิจทั้งที ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้เราสามารถดำเนินธุรกิจไปได้ไกล รวดเร็ว และประสบความสำเร็จ ถูกมั้ยคะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะคะ
สอบถามคอร์สเรียน >> Click